Blog

  • ครูบอกให้เอาเต็นท์มาเข้าค่ายลูกเสือ สิ่งที่ครูคิด สิ่งที่เด็กเอามา ครูหัวจะปวดนะ

    คงจะบอกได้คำเดียวว่า คำว่าเต็นท์ของเรามันไม่เท่ากันจริงๆ ครูคิดอีกแบบ เด็กคิดอีกแบบ เมื่อบอกว่าเข้าค่ายลูกเสือครั้งนี้ให้พกเต็นท์มาด้วย แต่พอเห็นหน้างานแล้วทำครูปวดหัวเลยทีนี้

    เรื่องราวความฮาในครั้งนี้ถูกแชร์โดยผู้ใช้งาน TikTok บัญชี mimlandgoodd โดยคุณครูได้แชร์โพสต์สุดฮา กับกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือของนักเรียนชั้นมัธยมต้น ที่ต้องมีการค้างแรมในค่าย

    เตรียมเต็นท์มาเข้าค่ายเตรียมเต็นท์มาเข้าค่าย

    โดยในคลิปคุณครูได้บรรยายเพิ่มเติมว่า “คำว่าเต็นท์ของเราไม่เท่ากัน ครูขอโทษนะลูกเห๋ย” ซึ่งในโพสต์ก็จะเห็นได้ว่า ครูบอกให้นักเรียนเตรียมเต็นท์มานอนค้างแรมด้วย ซึ่งสิ่งที่ครูคิดก็เป็นเต็นท์นอนทั่วไป แต่สิ่งที่เด็กนักเรียนเอามามันคือเต็นท์ที่เหมือนเอาไว้ใช้วางแผงขายของตามตลาด

    เตรียมเต็นท์มาเข้าค่ายเตรียมเต็นท์มาเข้าค่าย

    หลังจากที่โพสต์ของคุณครูได้ถูกแชร์ออกไปก็เรียกว่ากลายเป็นไวรัลสุดฮาที่มียอดเข้าชมมากกว่า 1.5 ล้านครั้ง ยอดไลก์มากกว่า 237,200 ครั้ง รวมไปถึงยังมีคอมเมนต์ที่เข้ามาฮาและเอ็นดูการเตรียมเต็นท์ของน้องกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “แล้วเพื่อนไม่ชวนเข้าเต็นท์เลยเนาะ555, “ดีค่ะดึกๆก็ลุกขึ้นมาขายของ”, “อารมณ์จองที่ขายของในตลาดตอนเช้า” รวมไปถึง “ควรเอาแผงมาด้วย เผื่อได้เปิดร้านขายของต่อได้เลย”

    เตรียมเต็นท์มาเข้าค่ายเตรียมเต็นท์มาเข้าค่าย

  • หวยลาววันนี้ 30 ธันวาคม 2567 ผลหวยลาววันนี้ ออกอะไร

    ลุ้นสด หวยลาววันนี้ 30/12/67 ถ่ายทอดสดหวยลาว หวยลาวล่าสุด หวยลาวพัฒนา 30 ธ.ค. 67 หวยลาวย้อนหลัง หวยลาว 6 ตัว วันนี้ออกอะไร งวด 30 ธันวาคม 2567 Laolottery หวยลาว ออกรางวัลทุก วันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์

    รายงานผลหวยลาว 30 ธันวาคม 2567 (30/12/67) ผลหวยลาว 6 ตัวออกรางวัลดังนี้ 

    ตรวจหวยลาว งวดประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2567

    เลข 6 ตัว : 229265
    เลข 5 ตัว : 29265
    เลข 4 ตัว : 9265
    เลข 3 ตัว : 265
    เลข 2 ตัว : 65

    เลขนามสัตว์

    • 07 หมู
    • 23 ลิง
    • 22 นกพิราบ
    • 10 นาก

    ผลสลากพัฒนา 5/45

    • 37 / 28 / 08 / 03 / 10

    รายละเอียดเงินรางวัล

    เลข 4 ตัว : ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 6,000 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 6,000,000 กีบ
    เลข 3 ตัว : ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 500 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 500,000 กีบ
    เลข 2 ตัว : ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 60 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 60,000 กีบ

  • เปิดคำทำนาย “บาบา วานกา” หมอดูตาบอด ปี 2025 คือจุดเริ่มต้นวันสิ้นโลก

    เปิดคำทำนาย “บาบา วานกา” หมอดูตาบอด ปี 2025 คือจุดเริ่มต้นวันสิ้นโลก 

    สำนักข่าวต่างประเทศได้เผยแพร่คำทำนายของ “บาบา วานกา” หมอดูตาบอด หรือ ฉายานอสตราดามุส แห่งบอลข่าน บาบา วานกา เกิดเมื่อปี 1911 และสูญเสียการมองเห็นหลังจากเกิดพายุเมื่อเธออายุได้ 12 ปี หลังจากเหตุการณ์นั้น เชื่อกันว่าเธอสามารถทำนายอนาคตได้ และกลายเป็นหมอดูชื่อดังชาวบัลแกเรียที่กล่าวกันว่ามีพลังในการทำนายอนาคต เธอได้เสียชีวิตลงในปี 1996 แต่ได้ทิ้งคำทำนายชะตากรรมโลกเอาไว้จนถึงจุดสิ้นสุด

    โดยเธอทำนายไว้ว่า วันสิ้นโลกจะเริ่มขึ้นในปี 2025

    1. สงครามในยุโรป: เธอทำนายว่าการทำลายล้างของมนุษยชาติจะเริ่มต้นจากสงครามในยุโรปที่จะทำลายล้างประชากรในทวีปนี้
    2. การเพิ่มอิทธิพลของรัสเซีย: บาบา วานกา ทำนายว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน จะได้รับเลือกตั้งใหม่ และจะทำให้รัสเซียมีอิทธิพลมากขึ้นในภูมิภาคและโลก
    3. ภัยธรรมชาติ: เธอทำนายว่าจะเกิดภัยธรรมชาติอย่างรุนแรงในปี 2025 เช่น การปะทุของภูเขาไฟที่ไม่เคยปะทุมานาน น้ำท่วมขนาดใหญ่ และแผ่นดินไหวที่ชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา
    4. การค้นพบทางวิทยาศาสตร์: ในด้านวิทยาศาสตร์ บาบา วานกา ทำนายว่าจะมีความก้าวหน้าในการปลูกถ่ายอวัยวะจากห้องแล็บ และอาจมีการค้นพบวิธีรักษามะเร็งในปีนี้

    อย่างไรก็ตาม แม้คำทำนายจะระบุว่า วันสิ้นโลกจะเริ่มขึ้นในปี 2025 แต่มนุษยชาติจะไม่ถูกกำจัดจนหมดสิ้นจนกว่าจะถึงปี 5079 ตามที่ระบุในไทม์ไลน์ของคำทำนายของเธอ 

    • 2025: ยุโรปได้รับความเสียหายจากความขัดแย้งภายใน
    • 2028: คาดว่ามนุษย์จะเริ่มสำรวจดาวศุกร์เพื่อเป็นแหล่งพลังงาน
    • 2033: น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกจะละลาย ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว 
    • 2076: ลัทธิคอมมิวนิสต์จะแพร่กระจายไปทั่วโลก
    • 2130: คาดว่ามนุษย์จะมีการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว
    • 2170: จะเกิดภัยแล้งในส่วนใหญ่ของโลก
    • 3005: โลกจะเข้าสู่สงครามกับอารยธรรมจากดาวอังคาร
    • 3797: มนุษย์จะอพยพออกจากโลกเนื่องจากไม่สามารถอยู่อาศัยได้
    • 5079: โลกจะถึงจุดสิ้นสุด

    ทั้งนี้ คำทำนายของ บาบา วานกา เกิดขึ้นจริงแล้วหลายเหตุการณ์ อาทิ การสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา เรือดำน้ำรัสเซียชื่อเคิร์สก์จะจม และเหตุการณ์ก่อการร้าย 9/11 นอกจากนี้เธอยังทำนายถึงการเสียชีวิตของตนเองเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 1996 ขณะอายุได้ 85 ปีด้วย

    และล่าสุดเธอเคยทำนายว่ามีการลอบสังหารผู้นำในปี 2024 ซึ่งตรงกับเหตุการณ์ลอบสังหารทรัมป์เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา

  • รักเรียบง่าย “เบลล่า-วิล ชวิณ” เช็กอินคาเฟ่ริมทะเล แต่ละช็อตหวานละมุนมาก

    เบลล่า ราณี หวานต่อเนื่องรับปีใหม่ โมเมนต์น่ารัก วิล ชวิณ เกี่ยวก้อยเช็กอินคาเฟ่ริมทะเล แต่ละช็อตทำเขินเลย 

    เป็นคู่รักที่หวานละมุนและมีความเป็นธรรมชาติมากๆ สำหรับคู่ของนางเอกสาว เบลล่า ราณี กับ วิล-ชวิณ เจียรวนนท์ นักธุรกิจทายาทเครือซีพี ต้องบอกว่าจากวันแรกที่เปิดตัวว่าทั้งสองคบหาดูใจกันจนกระทั่งถึงวันนี้ตำแหน่งคู่หวานแห่งปีบัลลังก์นี้ยังเป็นของทั้งคู่ 

    แม้ก่อนหน้านี้จะไม่ได้เห็นโมเมนต์อวยพรวันเกิดจาก วิล ชวิณ ส่งถึงแฟนสาว เบลล่า ราณี แต่ความรักสัมผัสได้จริงและอยู่ข้างกายเสมอ ไม่ต้องออนไลน์แต่ออฟไลน์นั้นละมุนและโรแมนติกเหลือเกิน เรียกว่ามองไปทางไหนก็เจอจริงๆ  

    ล่าสุด แฟนคลับที่เดินทางไปเที่ยวและเช็กอินคาเฟ่ริมทะเลสัตหีบเป็นต้องฮือฮามากๆ เพราะโมเมนต์ที่ เบลล่า ได้เดินเข้ามาในร้าน ตามมาด้วย วิล ชวิณ ที่เดินขนาบข้างมาติดๆ 

    และที่สร้างรอยยิ้มแบบแก้มแตกให้กับหลายคนที่ได้เห็นคือ วิล ชวิณ คลั่งรักสุดๆ โอบเอวเบาๆ ที่ด้านหลังของ เบลล่า 

    ต้องบอกว่าคู่นี้เป็นคู่รักที่เรียบง่ายและมีความเป็นธรรมชาติมากๆ เจอได้ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วไปไม่ต้องเน้นหรูหราอะไรเลย น่ารักที่สุด 

  • ช็อกส่งท้ายปี “ซาบีน่า-อนัน อันวา” ประกาศแยกทางกัน หลังแต่งงานได้ 1 เดือน

    ทำเอาแฟนๆ ต่างช็อกส่งท้ายปีเลยทีเดียว เมื่อนางแบบสาว ซาบีน่า ไมซิงเกอร์ กับอดีตนักร้องหนุ่ม อนัน อันวา ได้ออกมาแจ้งถึงสถานะของทั้งคู่ ว่าตอนนี้ตัดสินใจแยกทางกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังเข้าพิธีวิวาห์ได้เพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น

    โดย ซาบีน่า และ อนัน อันวา ได้เผยข้อความไว้ว่า “สวัสดีค่ะ/ครับ ทุกคน,

    พวกเรามีข่าวที่อยากจะแจ้งให้ทราบ ถึงจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ต้องพูดออกมา แต่เรารู้สึกว่าสำคัญที่จะบอกกับทุกคนโดยตรง หลังจากที่ได้คิดไตร่ตรองกันมาอย่างดีแล้ว เราสองคนตัดสินใจที่จะเดินแยกทางกัน การตัดสินใจครั้งนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก และแม้ว่าเราจะเข้ากันได้ดีในหลายๆ ด้าน แต่ก็มีความต้องการส่วนตัวบางอย่างที่เราไม่สามารถปรับให้ตรงกันได้

    เราอยากจะย้ำให้ชัดเจนว่าการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นจากความรักและความเคารพซึ่งกันและกัน เรายังคงห่วงใยกันอย่างลึกซึ้งและจะยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

    เราทราบดีว่าข่าวนี้อาจทำให้หลายคนที่สนับสนุนเราในฐานะคู่รักรู้สึกผิดหวัง และเราขอขอบคุณจากใจสำหรับความรักและกำลังใจที่ทุกคนมอบให้เราตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราหวังว่าทุกคนจะเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของเรา รวมถึงความต้องการที่จะมีพื้นที่ส่วนตัวในช่วงเวลานี้

    ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและความเข้าใจของทุกคนเสมอมานะคะ/ครับ

    ด้วยความรัก,
    ซาบีน่า – อนัน”

  • แม่เลี้ยงเดี่ยว “ชนะมะเร็ง” ฉลองด้วยการมาเที่ยวไทย สลด ขากลับจบชีวิตบน Jeju Air

    แม่เลี้ยงเดี่ยวเพิ่งเอาชนะมะเร็งได้เมื่อเดือนที่แล้ว ฉลองด้วยการมาเที่ยวไทยกับเพื่อน ขากลับจบชีวิตบน Jeju Air 

    เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับเครื่องบินครั้งใหญ่ในเกาหลีใต้ จากกรณีเกิดเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้ง 737-8 เอเอส (737-8AS) ของสายการบินเชจูแอร์ เที่ยวบิน 2216 บรรทุกผู้โดยสาร 175 คน และลูกเรือ 6 คน รวม 181 คน เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ก่อนเครื่องบินจะประสบเหตุไถลออกนอกรันเวย์ แล้วพุ่งชนกำแพงของสนามบิน ทำให้เกิดไฟลุกไหม้

    โดยทางการระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 179 คน รอดชีวิตเพียง 2 คน ขณะที่ครอบครัวของผู้โดยสารที่เฝ้ารอข่าวอยู่ที่สนามบินต่างเศร้าโศกเสียใจอย่างยิ่ง หนึ่งในนั้นคือคู่พี่น้องที่สูญเสียแม่ผู้เป็นเสาหลักของครอบครัว ซึ่งเพิ่งหายจากโรคมะเร็งไม่นาน

    รายงานจาก Yonhap News ระบุว่า คุณแม่นามสกุลคิม ผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่ 3 ได้รับการวินิจฉัยเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว หลังจากผ่านการรักษาอย่างเข้มข้น เธอได้รับข่าวดีว่าอาการหายดีในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ เพื่อฉลองชัยชนะเหนือโรคร้าย เธอได้เดินทางไปเที่ยวประเทศไทยกับเพื่อน แต่กลับต้องพบจุดจบอย่างน่าเศร้าบนเที่ยวบินขากลับ

    คุณคิมทิ้งลูกชายวัย 22 ปีซึ่งกำลังเรียนมหาวิทยาลัย และลูกสาววัย 15 ปีไว้เบื้องหลัง ลูกชายเล่าว่าแม่ของเขาต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดและความอ่อนแอระหว่างการรักษา โดยภาพนั้นยังติดอยู่ในหัวใจของเขาเสมอ ก่อนเกิดเหตุคืนหนึ่ง แม่ได้ส่งข้อความบอกว่า “ส้มจากเกาะเชจูที่พี่สาวของแม่ส่งมาได้วางไว้หน้าประตูแล้ว” ซึ่งกลายเป็นบทสนทนาสุดท้ายระหว่างแม่และลูกชาย

    ลูกชายเปิดเผยว่า พ่อแม่ของเขาแยกทางกันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยแม่เป็นผู้เลี้ยงดูเขาและน้องสาวมาโดยลำพัง และพ่อก็เสียชีวิตไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน การสูญเสียแม่ครั้งนี้ทำให้เขาต้องพิจารณาหยุดเรียนเพื่อทำงานหาเงินเลี้ยงดูน้องสาววัยมัธยม “ตอนนี้เหลือเพียงผมกับน้องสาว เราไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร” เขากล่าวด้วยความเจ็บปวด

    เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบอันลึกซึ้งของอุบัติเหตุ ซึ่งไม่เพียงแต่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือ แต่ยังทิ้งความโศกเศร้าและความลำบากไว้ให้ครอบครัวของพวกเขาอย่างไม่สิ้นสุด

  • มหาเศรษฐีจีนรวยหมื่นล้าน แต่พออายุ 85 ไปอยู่บ้านพักคนชรา รู้เหตุผลแล้วอึ้ง

    มหาเศรษฐีจีนรวยติดอันดับ 1 ใน 50 ของประเทศ แต่เมื่ออายุ 85 ปี กลับเลือกไปอยู่บ้านพักคนชรา แม้จะมีลูกหลานพร้อมหน้า เผยเหตุผลที่ชวนประหลาดใจ

    ข่าวเกี่ยวกับ หยิน หมิงซาน อดีตนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในนครฉงชิ่ง ประเศจีน เตรียมย้ายเข้าสถานพักฟื้นผู้สูงอายุ ได้สร้างความสนใจในสังคมจีนช่วงปลายเดือนกันยายน 2023

    เส้นทางอาชีพที่ยิ่งใหญ่

    หยิน หมิงซาน เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท Lifan ผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ชื่อดังของจีน เขาเกิดในครอบครัวที่มั่งคั่ง แต่หลังการเสียชีวิตของบิดา เขาต้องดิ้นรนสร้างอนาคตด้วยตัวเอง ในวัยเรียน เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์แห่งนครฉงชิ่ง

    อย่างไรก็ตาม เส้นทางชีวิตของเขากลับพลิกผัน เมื่อถูกจองจำเกือบ 20 ปี เนื่องจากคำพูดที่ไม่สอดคล้องกับยุคสมัยในขณะนั้น ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ เขาทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนรู้ โดยเฉพาะด้านเศรษฐศาสตร์และภาษาอังกฤษ เมื่ออายุ 41 ปี เขาได้รับการปล่อยตัวและเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะนักแปลประจำโรงงานเคมีแห่งหนึ่งในนครฉงชิ่ง

    หลังจากนั้น เขาเปลี่ยนเส้นทางมาสอนภาษาอังกฤษ และเมื่ออายุ 47 ปี ย้ายมาทำงานที่สำนักพิมพ์ฉงชิ่งในตำแหน่งรองผู้อำนวยการ ในปี 1985 เขาเข้ามาบริหารบริษัทที่ขาดทุน และสามารถพลิกฟื้นให้มีกำไรได้ภายในเวลาเพียงครึ่งปี

    เมื่ออายุ 54 ปี หยิน หมิงซาน เริ่มต้นธุรกิจของตัวเองด้วยการก่อตั้ง Lifan โดยใช้ทุนเริ่มต้น 200,000 หยวน (ประมาณ 933,000 บาท) ในการผลิตรถจักรยานยนต์ ในวัยที่คนส่วนใหญ่เตรียมเกษียณ เขากลับทุ่มเทสร้างธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง ขยายไปสู่การผลิตรถยนต์ รวมถึงลงทุนในวงการฟุตบอล Lifan ได้ฝากผลงานไว้อย่างโดดเด่น กลายเป็นอาณาจักรธุรกิจที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งในนครฉงชิ่ง

    เมื่ออายุ 63 ปี หยิน หมิงซาน ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 50 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในจีนโดย Forbes ในปี 2010 บริษัท Lifan เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยขณะนั้นเขาอายุ 72 ปี และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 11,000 ล้านหยวน (ประมาณ 51,346 ล้านบาท)

    อย่างไรก็ตาม Lifan ไม่สามารถรักษาความสำเร็จทางธุรกิจไว้ได้ หลังเผชิญกับปัญหามากมาย จุดสูงสุดคือการที่ หยิน หมิงซาน ประกาศเกษียณและส่งต่อกิจการให้ลูกหลาน แต่ในปี 2020 Lifan ต้องยื่นขอล้มละลายและปรับโครงสร้างธุรกิจ ก่อนจะถูกซื้อกิจการในเวลาต่อมา

    การตัดสินใจที่น่าประหลาดใจ

    แม้ Lifan จะไม่มีอีกต่อไป แต่ด้วยฐานะทางการเงินที่มั่นคง หยิน หมิงซาน สามารถใช้ชีวิตวัยชราอย่างสุขสบายที่บ้าน พร้อมการดูแลจากลูกหลาน เขามีลูกสองคนและครอบครัวที่อบอุ่น แต่กลับเลือกที่จะไม่พึ่งพาพวกเขา

    ในช่วงที่เขาล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล ลูกชายเสนอที่จะดูแลใกล้ชิด แต่เขาปฏิเสธอย่างหนักแน่น การตัดสินใจของนักธุรกิจวัย 85 ปี ที่เลือกเข้าอยู่บ้านพักคนชราในครั้งนี้ ก็เพราะเขาไม่ต้องการเป็นภาระของลูกหลาน

    “ผมมีลูกสองคน บ้านก็พร้อมทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล แต่หลังจากอายุเกิน 80 ความคิดของผมเกี่ยวกับชีวิตวัยชราเริ่มเปลี่ยนไป ผมไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเลี้ยงลูกไว้เพื่อให้ดูแลยามแก่เฒ่า เพราะเรามีลูกเพื่อรักและเลี้ยงดูพวกเขา ดังนั้นไม่ว่าผมจะอายุเท่าไหร่ ผมก็ไม่อยากรบกวนลูก เพราะพวกเขายังมีชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง” หยิน หมิงซาน กล่าว

    เลขาที่ทำงานกับ หยิน หมิงซาน มานาน กล่าวว่า “เขาเป็นคนเปิดใจกว้างเสมอ และการตัดสินใจครั้งนี้เป็นสิ่งที่เขาเลือกเอง ไม่มีใครชักจูง” ก่อนหน้านี้ เขาเคยพิจารณาว่าจะจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน แต่หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน เขามองว่าบ้านพักคนชราที่มีทีมงานมืออาชีพและสังคมสำหรับผู้สูงวัย เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

    ตามรายงานของ Times Weekly หยิน หมิงซาน ได้เข้าพักในบ้านพักคนชราแห่งหนึ่งในนครฉงชิ่งอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2023 บ้านพักคนชราแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุด ทิวทัศน์สวยงาม และบรรยากาศที่ผ่อนคลาย พร้อมโรงพยาบาลเฉพาะทางที่มีแพทย์ชื่อดัง และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัย ค่าบริการรายเดือนสูงถึง 10,000 หยวน (ประมาณ 46,000 บาท) ซึ่งเป็นจำนวนที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีฐานะทางการเงินมั่นคงเท่านั้น

    หยิน หมิงซาน เริ่มต้นชีวิตวัยเกษียณด้วยการอ่านหนังสือ เล่นเปียโน และเดินออกกำลังกายทุกวัน การเล่นเปียโนซึ่งเป็นความฝันในวัยเด็กของเขาได้กลายเป็นความจริงในวันนี้ เมื่อชีวิตในบ้านพักคนชราของเขาถูกเปิดเผย หลายคนต่างสนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้ หลังผ่านความผันผวนในชีวิตมามากมาย ตำนานนักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตได้เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน พร้อมความอิสระที่น่าอิจฉาอย่างแท้จริง

  • “แอล โอรส” กระทืบ “เบิร์ด วันว่างๆ” พร้อมปล่อยคลิป ตร.เตรียมเรียกมารับทราบข้อหา

    เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน บช.สอท.ขยายผลตรวจสอบกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีพฤติกรรมทำคอนเทนต์ที่ส่อเข้าข่ายผิดกฎหมาย และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งอาจจะมีประเด็นเรื่องของการฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์เข้าไปเกี่ยวข้อง รวมไปถึงเว็บพนันออนไลน์ ที่มีพฤติกรรมใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการแปะลิงก์ชักชวนโปรโมตเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงเว็บการพนัน

    ส่วนกรณีปรากฎคลิปที่ นายเบิร์ด ถูกทำร้ายร่างกาย และมีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย เบื้องต้นถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งทางตำรวจไซเบอร์ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกกับผู้ที่เผยแพร่คลิปด้วย

    ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ นายศราวุธ หรือ “แอล โอรส” ที่เจ้าตัวก็ออกมายอมรับเองด้วย ในส่วนคดีทำร้ายร่างกายนั้นเบื้องต้นทราบว่าทางพนักงานสอบสวน สน.สายไหม ได้ส่งคำร้องทุกข์ไปให้ สน.บางเขน ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ดำเนินการตามขั้นตอน

    อย่างไรก็ตาม นายเบิร์ด สามารถจดจำใบหน้าและชื่อเล่น ของกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้ โดยหลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและ ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา

    ผบช.สอท. กล่าวว่า นอกจากนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกนายเอกชาติ มีพร้อม ให้มารับทราบข้อหาช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกสโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ซึ่งคาดว่าเจ้าตัวจะเข้าพบพนักงานสอบสวนในเร็วๆนี้

  • เปิดคำให้การ ลูกเรือ 2 ราย ผู้รอดชีวิต Jeju Air เผยนั่งตำแหน่งเดียวกันบนเครื่องบิน

    เปิดคำให้การ ลูกเรือ 2 ราย ผู้รอดชีวิต Jeju Air คาดตำแหน่งที่นั่งบนเครื่องก่อนเกิดอุบัติเหตุ มีส่วนสำคัญให้รอดชีวิต

    จากกรณีเกิดเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้ง 737-8 เอเอส (737-8AS) ของสายการบินเชจูแอร์ เที่ยวบิน 2216 บรรทุกผู้โดยสาร 175 คน และลูกเรือ 6 คน รวม 181 คน เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เหตุเกิดวันที่ 29 ธ.ค.67 ก่อนเครื่องบินจะประสบเหตุไถลออกนอกรันเวย์ แล้วพุ่งชนกำแพงของสนามบิน

    สำนักข่าวยอนฮัป ของเกาหลีใต้ รายงานว่า อีโม อายุ 33 ปี พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล และเมื่อแพทย์ถามว่า “เจ็บตรงไหน” เธอตอบกลับด้วยคำถามว่า “เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?”

    แพทย์ที่ดูแลเธอที่โรงพยาบาลฮันกุก เมืองมกโพ เล่าว่า อีโมดูเหมือนจะลืมเหตุการณ์ในช่วงอุบัติเหตุไปชั่วขณะ และกลับถามแพทย์ก่อนที่จะพูดถึงอาการของตัวเอง เธอยังถามต่อว่า “ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?”

    มีรายงานว่า อีโมบอกว่า ก่อนเครื่องบินลงจอด เธอคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้ว และคิดว่าเครื่องบินได้ลงจอดเรียบร้อย แต่หลังจากนั้นเธอจำอะไรไม่ได้

    เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าเธออาจอยู่ในสภาวะใกล้เคียงกับอาการช็อก (panic) แต่สิ่งแรกที่เธอพูดคือความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเครื่องบินและผู้โดยสาร ซึ่งสะท้อนถึงความรับผิดชอบของเธอ”

    อีโมซึ่งปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้โดยสารในส่วนท้ายของเครื่องบิน ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกไหล่ด้านซ้ายและศีรษะ แต่ยังคงมีสติครบถ้วน โรงพยาบาลรายงานว่า ชีพจรของเธอปกติ และเธอยังสามารถเดินได้ ตามคำร้องขอของครอบครัว อีโมถูกย้ายไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงโซลในวันเดียวกัน

    ขณะที่ กูโม อายุ 20 ปี พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอีกคนที่รอดชีวิต กล่าวกับเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงว่า “มีควันออกมาจากเครื่องยนต์ด้านหนึ่งของเครื่องบินก่อนที่จะเกิดการระเบิด”

    ทั้งอีโมและกูโมอยู่บริเวณประตูทางออกฉุกเฉินด้านท้ายของเครื่องบิน และดูเหมือนว่าพวกเธอจะรอดชีวิตได้เพราะส่วนหางของเครื่องบินหลุดออกระหว่างการชน

     

    โหลดเพิ่ม

     

  • เผยรายชื่อ 2 คนไทย ผู้โดยสารบนเครื่องบิน Jeju Air ไถลออกรันเวย์ที่เกาหลีใต้

    เผยรายชื่อ 2 คนไทย ผู้โดยสารบนเครื่องบิน Jeju Air ประสบอุบัติเหตุไถลออกรันเวย์ที่เกาหลีใต้ 

    ความคืบหน้า เหตุการณ์เครื่องบินสายการบิน Jeju Air ของเกาหลีใต้ ที่เดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประสบอุบัติเหตุระหว่างลงจอดที่ท่าอากาศยานมูอัน ประเทศเกาหลีใต้

    สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล แจ้งว่า เช้าวันนี้มีรายงานข่าวในสาธารณรัฐเกาหลีว่า ในวันนี้ (29 ธ.ค. 2567) เวลา 09.07 น. สายการบิน Jeju Air ที่บรรทุกผู้โดยสารจำนวน 181 คน (ผู้โดยสาร 175 คน จนท.สายการบิน 6 คน) ได้เกิดไถลรันเวย์

    สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล กำลังตรวจสอบกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติของสาธารณรัฐเกาหลีว่ามีคนไทยได้รับบาดเจ็บจากเหตุการ์ณดังกล่าวหรือไม่ ล่าสุดทราบว่ามีผู้โดยสารชาวไทย 2 คน โดยสารเครื่องบินลำดังกล่าวมาด้วย

    รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสายการบิน Jeju Air เที่ยวบิน 7C2216 เดินทางออกจากประเทศไทย วันที่ 29 ธ.ค.2567 เวลา 01.30 น. มีผู้โดยสารทั้งหมด 175 ราย แยกเป็นคนไทย 2 ราย ชาวเกาหลี 173 ราย แยกเป็นผู้ชายเกาหลีใต้ 82 ราย และผู้หญิงเกาหลีใต้ 91 ราย

    นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานกรณีสายการบิน Jeju Air ไถลไปชนรั้ว เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งได้รับรายงานล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมาว่า คนไทยโดยสารไปบนเครื่องบินลำดังกล่าว 2 คน เป็นสุภาพสตรีทั้ง 2 คน อายุ 22 ปี 1 คน และ 45 ปี 1 คน ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ รายละเอียดรายชื่อผู้บาดเจ็บและผู้รอดชีวิตจากเกาหลีใต้อยู่  ทั้งนี้ได้รับรายงานว่า เอกอัครราชทูตไทยติดต่อประสานงานเพื่อขอข้อมูลดังกล่าวในขณะนี้อยู่

    ล่าสุดมีการเปิดเผยชื่อผู้โดยสารคนไทย 2 ราย คือ

    1. Sirithon Chaue อายุ 22 ปี 
    2. Jongluk Doungmanee อายุ 45 ปี 

     

    โหลดเพิ่ม